วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

เพชรบ้านนา....มาแล้วครับ..................

             ชวนชมเพชรบ้านนา เป็นชวนชมสายพันธุ์ “โซโคทรานั่ม” อยู่ในวงศ์ APOCYNACEAE เป็นไม้ทรงพุ่ม สูง 80 ซม. ถึง 1 เมตร ลำต้นเกลี้ยงเป็นมันเมื่อยังเล็ก สีเขียวอมเทา อ้วนใหญ่ โคนโต ทุกส่วนมียางสีขาว แตกกิ่งก้านที่ยอดจำนวนมาก กิ่งจะแผ่กระจายกว้างน่าชมมาก ใบเป็นใบเดี่ยว ออกหนาแน่นในช่วงฤดูฝน ใบเป็นรูปช้อน ปลายมน ก้านใบสั้น ช่วงปลายฝนเข้าสู่ฤดูหนาว หรือต้นหนาว จะทิ้งใบแล้วจึงออกดอก   
               เพชรบ้านนาได้ชื่อว่าเป็นโซโคทรานัมที่มีความอมตะนิรันดร์กาลตลอดมา เป็นไม้เมื่อเล็ก  ๆ ได้ชื่อว่า "ขี้เหล่ที่สุด" แต่เมื่อโตขึ้นอายุเกินห้าปีขึ้นไปก็ได้ชื่อว่า "ไม้อมตะนิรันดร์กาล" ด้านความสวยงาม เป็นไม้ที่สวยเองโดยธรรมชาติ ไม่ต้องมาปรุงแต่งหรือดัดแปลงใด ๆ ความสวยงามดุจดังธรรมชาติได้สร้างเอาไว้แล้วนี้เอง สร้างความประทับใจให้นักเล่นชวนชมมาแล้วทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ยุคของลุงเสริม  เกียรติกุลได้นำเอากิ่งชวนชมมาจากประเทศซาอุดิอารเบีย จวบจนกระทั่งวันหนึ่งกลายเป็นชวนชมที่มีความสวยงามที่สุดของเมืองไทย คุณเทิอดเกียรติ   เกียรติกูล บุตรชายของลุงเสริม ได้เล่าไว้ ดังนี้ "ในปี 2520 ประเทศทางตะวันออกกลาง มีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากเพื่อพัฒนาประเทศ ดังนั้น ลุงบุญเสริม จึงมุ่งหน้าไปขุดทองยังประเทศซาอุ ไปอยู่นานมาก หลายปีจะรู้เส้นทางในประเทศ ซาอุ และสภาพของแต่ละเมืองเป็นอย่างดี ระหว่างที่อาศัยอยู่ที่พักมักจะหาต้นไม้แปลกๆ ในทะเลทรายมาปลูกไว้เสมอ จนอยู่มาวันหนึ่งได้เดินทางไปเมืองคัมมิต ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก และมีภูเขาหินมากมาย จึงได้ถ่ายรูปไว้บ้าง แต่วันที่ไปพบ ชวนชมนั้นไม่ได้เอากล้องไปเพราะไปพบด้วยความบังเอิญ ต้นที่พบเป็นต้นที่ล้มอยู่ในลักษณะนอน มีขนาดใหญ่เท่ากับถังขนาด 200 ลิตร สามารถขึ้นไปขี่เล่นได้ ซึ่งเป็นชวนชมที่แปลกมาก ไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงตัดสินใจตัดกิ่งมาปักชำไว้ยังที่พักเป็นเวลา 1 ปี แปลกตรงที่ว่าไม่ยอมออกรากแต่ก็ไม่ตาย 
ปีที่นำกลับมาจากประเทศซาอุ ประมาณ ปี 2531 โดยการแอบเอากระดาษห่อไว้ในลังโทรทัศน์ และด้ำมาปลูกไว้ในกระถางขนาด 12 นิ้ว ที่ บางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีการปลูกครั้งนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะต้องกลับไปขุดทองที่ประเทศซาอุต่อ หลังจากไม่ได้ไปซาอุ ก็ได้ย้ายบ้านมาอยู่ที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก เพราะมีที่ดินมรดกอยู่ที่ ต.เขาเพิ่ม ประมาณปลายปี 2534 ซึ่งตอนที่มาอยู่ที่อำเภอ บ้านนี่ก็เริ่ม ติดผักและมีการเพาะเลี้ยง มาเรื่อยๆ บางครั้งมีญาติพี่น้องมาเที่ยวหา อยากได้ก็แจกจ่ายไปในขณะนั้นเขานิยมปลูกโป๊ยเซียนกัน พอมาถึงปี 2539 โป๊ยเซียนเริ่มเพิ่มมากขึ้นจนราคาเริ่มตกต่ำ
ต้นแม่เพชรบ้านนาที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาของโซโคทรานัม
คุณอนุชา กับเพื่อนๆที่เรียนจบเกษตรลพบุรี คือ อนุรักษ์ สายบุญยัง ขวัญฑูรย์ ใจแสวง ได้มาชวน คุณเทิดเกียรติ เกียรติกุล ซึ่งเป็นพี่ชาย ขณะนั้นทำงานอยู่ที่ ธ.ก.ส.สาขานครนายก เห็นว่ามีชวนชมที่แปลกอยู่ต้นหนึ่งที่คุณพ่อบุญเสริมนำมาเพราะเลี้ยงไว้และมีต้นลูกรุ่น 1 อยู่ 170 ต้น จึงดัดสินใจร่วมตัวกันลงทุน และรวบรวมสายพันธุ์มากที่สุด หวังว่าจะเป็นสวนชวนชมที่มีสายพันธุ์มากที่สุดในเมืองไทย เนื่องจากการลงทุนตั้งสวนต้องใช้เงินทุนจำนวนมากจึงไปชวนรุ่นน้องอีกคน คือ คุณเฉลียว ปิ่นกุมภีร์ มาร่วมอีกคน หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณปี 2540
สวนที่คุณเทิดเกียรติ และคูณอนุชา ได้เ้าหุ้นกันทำสวนเพชรบ้านนา
 โดยมีการผลิตลูกๆเพชรบ้านนาออกมาอีก 3 รุ่น คือ รุ่น 2 จำนวน 140 ต้น รุ่น 3 จำนวน 40 ต้น รุ่น 4 ประมาณ 70 ต้น ซึ่งภายหลังได้นำรุ่น 3 และ 4 มารวมกันเพื่อจับสลากจำหน่าย แบ่งออกเป็น 2 ขนาดคือ ขนาดราคา 3,000 บาท และ ขนาด 5,000 บาท ดังนั้น รุ่น 1-4 จึงเป็นไม้ที่เกิดจากกิ่งแม่โดยตรง ส่วนรุ่น 5 น่าจะเกิดจากกิ่งแม่ที่ฝากไว้กับตอไทยที่อยู่ในสวน ซึ่งในช่วงหลังเศรษฐกิจเริ่มฟองสบู่แตกทำให้วงการชวนชมเงียบไปด้วย แต่ในช่วงแรกสวนเพชรบ้านนา ก็ประสบความสำเร็จ อยู่ในแนวหน้าของผู้เล่นชวนชมเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องจากสมัยนั้นเป็นการเพาะเลี้ยงไม้สีหรือที่เรียกว่าพันธุ์ฮอลแลนด์เป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีพวกยักษ์อยู่บ้าง คือ ยักษ์หน้าวัง ยักษ์ซาอุ ของสวนอโยธยา ยักษ์สิงห์บุรี ด้วยความมาแรงของชวนชมไม้สีสมัยก่อนไม่ต่างอะไรกับไม้ตัวอื่นๆที่ขยายพันธุ์โดยการเสียบยอด และเป็นการเข้าใจผิดว่าเป็นไม้ที่ส่งออกต่างประเทศได้ เพราะคนที่รู้เรื่องการส่งออกมีน้อยคน การสื่อสารก็ไม่เหมือนกับในปัจจุบัน จึงเป็นช่วงที่ผู้ที่นำเข้าชวนชมจากต่างประเทศได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ
เพชรบ้านนารุ่นแรก ๆ ฟอร์มก็แนี้แหละพอโตสวยจนจำไม่ได้
ทำให้ชวนชมในช่วงแรกต้องปิดฉากลง สวนชวนชมเพชรบ้านนาเองก็ต้องต้องเลิกไปในที่สุดเนื่องจากสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว..... ปัจจุบันต้นแม่พันธุ์เพชรบ้านนาที่นำมาจากประเทศซาอุได้กลับไปอยู่ จ.ชลบุรีเช่นเดิมโดยการขายให้กับอุทยานหินล้านปี ที่พัทยา แต่ก็ยังมีผู้ที่ได้สระสมไว้หลายคน ที่ยังหลงเหลือในเมืองไทย บางส่วนถูกขายออกไปนอกประเทศ กิ่งแม่ที่เสียบต่อไทยไว้ยังคงอยู่ที่คุณอนุชา ...ต่อมาประมาณปี 2545 ประเทศอินโดฯเริ่มมีความสนใจชวนชมของไทยที่มีความสวยงามแปลกกว่าไม้ตระกูลยักษ์ ให้ทรงสวยงามกว่าโซโคทรานั่มเรียกกันในเชิงการค้าว่า Thai Soco Petch Ban Na และยังมีไม้อีกหลายตัวที่ได้รับความนิยมเช่นกัน คือ มงกุฎทอง มงกุฎเพชร เข้าหินซ้อน รวมไปถึงไม้ตระกูลยักษ์ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และเป็นการกลับมาของเพชรบ้านนา ซึ่งเป็นส่งออกอย่างแท้จริงและเป็นที่ที่ยอมรับของชาวต่างประเทศไปแล้ว"
อีกรุ่นหนึ่งสังเกตุดูของผมตอนนี้ก็แนี้แหละแทไม่เห็นความสวยงาม
                   ข้อความเหล่านี้เป็นข้อความที่คุณเทิอดเกียรติ   เกียรติกูล  ได้โพสเอาไว้ ผมนำมาบางส่วนเพื่อให้สมาชิกที่ผ่านเข้ามาในเวปของผมได้เข้าใจประวัติความเป็นมา ได้รู้จักบุคคลที่คุณเทิดเกียรติ ได้กล่าวถึงว่าแต่ละคนเกี่ยวข้องกันยังไง ผมจะไม่พาเข้าลึกไปถึงผลประโยชน์ของแต่ละสวนที่ชิงผลประโยชน์กัน จนเกิดการอ้างอิงว่าของข้าคือกิ่งแท้แน่นอน เพราะผมต้องการให้คนเลี้ยงชวนชมโดยเฉพาะเพชรบ้านนา ได้เลี้ยงไม้อย่างมีความสุข มากกว่าจะมาสนใจว่าของใครจริงแท้แน่นอนครับ...
                    หลังจากที่ผมตัดสินใจว่าผมอยากมีโซโคมาประดับบารมีบ้าง ผมก็ลงทุนศึกษาประวัติความเป็นมาของแต่ละสายพันธุ์ ทำให้ผมรู้ว่าหลายสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงของสวนต่าง ๆ ล้วนมาจากชวนชมสายพันธุ์หนึ่งนั้นก็คืยักษ์บางคล้า  หลายคนได้ยินชือร้องยี่เลยครับ ทำไมนะหรือ ทั้งนี้ก็เพราะว่านักเล่นชวนชมปัจจุบันนี้ไม่ได้สนใจศึกษาหาประวัติชวนชมแต่ละสายพันธุ์นั่นเอง แต่จะสนใจเฉพาะชวนชมสายพันธุ์ที่กำลังมีชื่อเสียง หารู้ไม่ว่าไม่ว่าจะเป็มงกุฏทอง  หนองแหน ชฎาเพชร  เขาหินซ้อน และมงกุฏเพชร  ฯลฯ ล้วนมาจากชวนชมบางคล้าทั้งสิ้น แต่คนเรานี่แหละมาแยกแยะเรียกชื่อต่าง ๆ นานา ดังนี้
"ไม้สายบางคล้า จะมีคุณสมบัติดังนี้
1. ลูกที่ได้หลากหลายฟอร์ม เช่น มุงกุฎทอง(มกท.), เขาหินซ้อน(ขหซ.), มุงกุฎเพชร(มกพ.), ชฎาเพชร(ชฎพ.) ปะปนกันไป 
2. เมล็ดพันธุ์ ใน 1 ฝัก จะให้ลูกออกมา ดอก ต้น ใบ ฟอร์ม ที่แตกต่างกันไป แม้จะผสมเองด้วยมือ (ไม่นิ่ง)
3. การกลายในลักษณะด้อยที่มีน้อย เช่น ต้นแคระ แฝด ด่าง
           ทั้งหมด คือลักษณะของกิ่งบางคล้า เมื่อเพาะเม็ดสายนี้ เขาจะคัดต้นที่มีฟอร์มต่างออกจากกัน แล้วเรียกชื่อตามฟอร์มนั้น ๆ และท้ายที่สุด ต้นที่ไม่มีฟอร์มจะใช้ชื่อบางคล้า
....ชื่อแรก มกท. เกรดเอ คัดเอาไปขายสำหรับคนชอบสวมไม้
....ชื่อที่ 2 เขาหินซ้อน สำหรับคนชอบมวยรอง กิ่งขนานแต่กิ่งยืด แตกกิ่งเยอะ
....ชื่อที่ 3 มกพ. สำหรับฟอร์ม กิ่งชี้ 45 องศา
....ชื่อที่ 4 ชฎพ. ถ้าใบออกฟ้ากิ่งถี่
....ชื่อที่ 5 บางคล้า เป็นชื่อสุดท้ายที่ไร้ฟอร์ม"
             น่าสงสารบางคล้าไหมครับ มาจากฝักเดียวกันแท้ ๆ เรียกชื่อต่างกัน ผมยกมาก็ต้องการให้เพื่อนนักเล่นชวนชมอย่ายึดติดกับชื่อหรือยึดติดกัสวนว่า ถ้าอยากได้พันธุ์นี้ต้องมาจากสวนนี้เป็นต้น 
              เอาละครับผมชักจะพามาไกลมาดูเพชรบ้านนาที่ผมมีอยู่ดีกว่าครับก็พื้น ๆ ธรรมดาไม่มีอะไรหวืวหวาหรอกครับ และไม้ที่มีก็ยังเล็กอยู่และค่อยข้างขี้เหล่เอามาก ๆ ซะด้วย เลี้ยงบ้านนาต้องทำใจ   จะหอมหวานเมื่อไม้มีอายุห้าปีขึ้นไป ไม่ต้องใช้ลวดดัดกิ่งหรอก กิ่งชี้กระโดกกระเดกที่มีอยู่เขาจะเข้าฟอร์มเองโดยอัตโนมัต คือกิ่งจะนอนลงมาและสวยงามตามธรรมชาติ ไม่ต้องแต่งหรอกครับเปลืองเงินเปล่า ๆ


ใบและดอก
ดูใบใกล้ ๆ
ผิวแกร่ง ๆ 
ดอกหวาน ๆ มีพอได้ชื่นใจ
อีดหนึ่งดอก
ต้นนี้ซีด ๆ ไกล้โรย
ในกระถาง 11 นิ้ว
เหมือนกันเลย
ในกระถาง 55 เซ็นติเมตร (กระถางทำเองด้วยครับ) สายคุณเทิดเกียรติและคุณอนุชา แบบว่าปน ๆ กันครับ....
ดูไงก็ไม่สวยเลยครับ อายุประมาณสามปีเห็นจะได้
ค่อยดูดีหน่อย
ดูดีเหมือนกัน
โคนคู่จริง ๆ (เทียม ๆ ) กอดกันแน่นเชียว
อีกหนึ่งแถวครับที่มีอยู่
ผมไม่ได้แต่งรากเพราะผมชอบบ้านนาแบบเดิม ๆ ต้นนี้ดูแปล ๆ ต้องไปเช็คต้นนี้ใหม่....
งวงไอยรา ดูไงก็ใช่....ปลูกเป็นทรงดั้งเดิมได้
กิ่งกระชับ ๆ มักเป็นสายจากคุณอนุชาครับ
ต้นนี้น่าจะมาจากคุณเทอดเกียรติ
รากก็ยังงั้น ๆ 
รออีกสองปีเพื่อพิสูจน์ความสวยงามว่าเป็นตามเขาเล่าลือหรือเปล่า
สองราก กิ่งเมนชัดเจน
ชี้โด่ชี้เด่............
ได้แต่รอ ๆๆๆๆๆๆๆๆอีกสองปีว่ามันจะเข้าฟอร์มเอง...
ในกระถาง 20 นิ้ว รอเปลี่ยนดิน
ส่วนที่เปลี่ยนดินในกระถางเดิม ๆ
รอกระถาง.........เอากองไว้ ไม่ได้แขวนหรอก.......
รอ............
รอ..............
รอ............
อีกหนึ่งแถวที่ลองยกสูงดู...........
ไม่กล้าดัดรากเหมือนเซียนดัง ๆๆ
ทรงสูงเกินสิบสองนิ้วฟุต
ทรง Original
ขี้้้เหล่ก็ลองทำดู สวยไม่สวยไม่เป็นไร ความสุขได้จากการลองทำดู..........
นี่ก็ลองทำดู....
                 พี่น้องคอชวนชมครับ ชวนชมเพชรบ้านนาขของผมยังไม่ได้ข้อสรุปทั้งหมด ที่พอสรุปได้เบื้องต้นก็คือ ตอนเล็ก ๆ ขี้เหล่มาก ๆๆๆๆ หาฟอร์มสวย ๆ ยาก ดอกสียังไม่นิ่งเพราะอาจมีเข้มบ้าง ใบก็เขาเลย ดอกใส้โผล่ชัดเจน ผิวพรรณก็อย่างที่เห็น แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะเตือนสมาชิกก็คือ การซื้อเมล็ดเพชรบ้านนามาเพราะเองขอให้พึ่งระวังมาก ๆ กว่าการซื้อเมล็ดพันธุ์สายพันธุ์อื่น ๆ ทั้งนี้เพราะว่า      เพชรบ้านนานั้นมีลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่ควรมองข้าม แต่ถ้าท่านไม่ถือเรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร แต่คนที่อยากได้สายพันธุ์เพชรบ้านนาจริง ๆ ควรซื้อจากคนที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณอนุชา คุณเทิดเกียรติ หรือที่อื่น ๆ ที่คนในวงการเชื่อถือ ก็นับว่าท่านจะไม่เสียเวลาเปล่า ห้าปีกับการรอพิสูจน์ก็ทรมานพอแล้ว ถ้าไม่ได้ของจริงมันก็เสียเวลาไปไม่น้อย  แต่ก็มีอีกประเด็นที่คนต้องการพัฒนาสายพันธุ์โดยเอาเกษรเพชรบ้านนาไปผสมกับสายพันธุ์ที่ตัวเองชื่นชอบ ก็จะได้สายพันธุ์ใหม่ที่อาจสวยกว่าเพชรบ้านเดิม ๆ ก็ได้และอาจเลี้ยงง่ายกว่าเวลาการรอคอยก็อาจน้อยกว่า ผมมีตัวอย่างการผสมเกสรเพชรบ้านนากับสายพันธุ์อื่นก็คือ การเอาเพชรบ้านนาที่ถือว่าเป็นสุดยอดของโซโคทรานัมไปผสมกับราชินีพันธุ์ดอก ซึ่งเราถือว่าเป็นสุดยอดของชวนชมสายอาราบิคัม บุคคนที่ผมขออนุญาตกล่าวถึงคือคุณจรัญ   วงศ์ประเสริฐ ท่านเป็นปูชนีย์บุคคลด้านชวนชมที่คนในวงการต่างยกนิ้วให้ ท่านใช้เพชรบ้านนา(สวนหิน) ผสมกับราชินีพันธุ์ดอก ได้ลูกออกมาที่น่าพึงพอใจคือยังคงมีเอกลักษณ์ของเพชรบ้านนา และดอกที่ดก ๆ สีไปทางราชินีพันดอก 
เอาไว้โอกาสต่อไปผมจะมาโพสกระทู้บ้านนา+ราชินี...(บางคนก็ทำมาแล้วและตั้งชื่อว่าเพชรราชินี) ให้ท่านช่วยดูและวิเคราะห์ร่วมกันนะครับ ขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านท่านเข้ามาชม ชวงนี้ก็ทำสถิติวันละกว่า 800 คน ครับ ผมดีใจและภูมิใจที่มีคนสนใจและขอบอกกล่าวกับท่านทั้งหลายว่าผมมือใหม่ครับ ทุกวันนี้ก็เข้าเวปหาความรู้ทั้งบ้านเล็กของท่าน ฒ ผู้เฒ่า (คุณสุกิจ) และบ้านใหญ่ของคุณทรงกรด ขอบคุณท่านทั้งสองที่ให้ความอนุเคราะห์กับผมได้ศึกษาหาความรู้ ได้โพสแบ่งขายบางโอกาส และได้ฝากลิงค์เพื่อให้สมาชิกได้รู้จักบ้านสวนชวนชมมาก ๆ ครับ  ขอบพระคุณผู้อ่านทุก ๆ ท่านครับ.........

ไม่มีความคิดเห็น: