วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

เพชรบ้านนา....มาแล้วครับ..................

             ชวนชมเพชรบ้านนา เป็นชวนชมสายพันธุ์ “โซโคทรานั่ม” อยู่ในวงศ์ APOCYNACEAE เป็นไม้ทรงพุ่ม สูง 80 ซม. ถึง 1 เมตร ลำต้นเกลี้ยงเป็นมันเมื่อยังเล็ก สีเขียวอมเทา อ้วนใหญ่ โคนโต ทุกส่วนมียางสีขาว แตกกิ่งก้านที่ยอดจำนวนมาก กิ่งจะแผ่กระจายกว้างน่าชมมาก ใบเป็นใบเดี่ยว ออกหนาแน่นในช่วงฤดูฝน ใบเป็นรูปช้อน ปลายมน ก้านใบสั้น ช่วงปลายฝนเข้าสู่ฤดูหนาว หรือต้นหนาว จะทิ้งใบแล้วจึงออกดอก   
               เพชรบ้านนาได้ชื่อว่าเป็นโซโคทรานัมที่มีความอมตะนิรันดร์กาลตลอดมา เป็นไม้เมื่อเล็ก  ๆ ได้ชื่อว่า "ขี้เหล่ที่สุด" แต่เมื่อโตขึ้นอายุเกินห้าปีขึ้นไปก็ได้ชื่อว่า "ไม้อมตะนิรันดร์กาล" ด้านความสวยงาม เป็นไม้ที่สวยเองโดยธรรมชาติ ไม่ต้องมาปรุงแต่งหรือดัดแปลงใด ๆ ความสวยงามดุจดังธรรมชาติได้สร้างเอาไว้แล้วนี้เอง สร้างความประทับใจให้นักเล่นชวนชมมาแล้วทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ยุคของลุงเสริม  เกียรติกุลได้นำเอากิ่งชวนชมมาจากประเทศซาอุดิอารเบีย จวบจนกระทั่งวันหนึ่งกลายเป็นชวนชมที่มีความสวยงามที่สุดของเมืองไทย คุณเทิอดเกียรติ   เกียรติกูล บุตรชายของลุงเสริม ได้เล่าไว้ ดังนี้ "ในปี 2520 ประเทศทางตะวันออกกลาง มีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากเพื่อพัฒนาประเทศ ดังนั้น ลุงบุญเสริม จึงมุ่งหน้าไปขุดทองยังประเทศซาอุ ไปอยู่นานมาก หลายปีจะรู้เส้นทางในประเทศ ซาอุ และสภาพของแต่ละเมืองเป็นอย่างดี ระหว่างที่อาศัยอยู่ที่พักมักจะหาต้นไม้แปลกๆ ในทะเลทรายมาปลูกไว้เสมอ จนอยู่มาวันหนึ่งได้เดินทางไปเมืองคัมมิต ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก และมีภูเขาหินมากมาย จึงได้ถ่ายรูปไว้บ้าง แต่วันที่ไปพบ ชวนชมนั้นไม่ได้เอากล้องไปเพราะไปพบด้วยความบังเอิญ ต้นที่พบเป็นต้นที่ล้มอยู่ในลักษณะนอน มีขนาดใหญ่เท่ากับถังขนาด 200 ลิตร สามารถขึ้นไปขี่เล่นได้ ซึ่งเป็นชวนชมที่แปลกมาก ไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงตัดสินใจตัดกิ่งมาปักชำไว้ยังที่พักเป็นเวลา 1 ปี แปลกตรงที่ว่าไม่ยอมออกรากแต่ก็ไม่ตาย 
ปีที่นำกลับมาจากประเทศซาอุ ประมาณ ปี 2531 โดยการแอบเอากระดาษห่อไว้ในลังโทรทัศน์ และด้ำมาปลูกไว้ในกระถางขนาด 12 นิ้ว ที่ บางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีการปลูกครั้งนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะต้องกลับไปขุดทองที่ประเทศซาอุต่อ หลังจากไม่ได้ไปซาอุ ก็ได้ย้ายบ้านมาอยู่ที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก เพราะมีที่ดินมรดกอยู่ที่ ต.เขาเพิ่ม ประมาณปลายปี 2534 ซึ่งตอนที่มาอยู่ที่อำเภอ บ้านนี่ก็เริ่ม ติดผักและมีการเพาะเลี้ยง มาเรื่อยๆ บางครั้งมีญาติพี่น้องมาเที่ยวหา อยากได้ก็แจกจ่ายไปในขณะนั้นเขานิยมปลูกโป๊ยเซียนกัน พอมาถึงปี 2539 โป๊ยเซียนเริ่มเพิ่มมากขึ้นจนราคาเริ่มตกต่ำ
ต้นแม่เพชรบ้านนาที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาของโซโคทรานัม
คุณอนุชา กับเพื่อนๆที่เรียนจบเกษตรลพบุรี คือ อนุรักษ์ สายบุญยัง ขวัญฑูรย์ ใจแสวง ได้มาชวน คุณเทิดเกียรติ เกียรติกุล ซึ่งเป็นพี่ชาย ขณะนั้นทำงานอยู่ที่ ธ.ก.ส.สาขานครนายก เห็นว่ามีชวนชมที่แปลกอยู่ต้นหนึ่งที่คุณพ่อบุญเสริมนำมาเพราะเลี้ยงไว้และมีต้นลูกรุ่น 1 อยู่ 170 ต้น จึงดัดสินใจร่วมตัวกันลงทุน และรวบรวมสายพันธุ์มากที่สุด หวังว่าจะเป็นสวนชวนชมที่มีสายพันธุ์มากที่สุดในเมืองไทย เนื่องจากการลงทุนตั้งสวนต้องใช้เงินทุนจำนวนมากจึงไปชวนรุ่นน้องอีกคน คือ คุณเฉลียว ปิ่นกุมภีร์ มาร่วมอีกคน หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณปี 2540
สวนที่คุณเทิดเกียรติ และคูณอนุชา ได้เ้าหุ้นกันทำสวนเพชรบ้านนา
 โดยมีการผลิตลูกๆเพชรบ้านนาออกมาอีก 3 รุ่น คือ รุ่น 2 จำนวน 140 ต้น รุ่น 3 จำนวน 40 ต้น รุ่น 4 ประมาณ 70 ต้น ซึ่งภายหลังได้นำรุ่น 3 และ 4 มารวมกันเพื่อจับสลากจำหน่าย แบ่งออกเป็น 2 ขนาดคือ ขนาดราคา 3,000 บาท และ ขนาด 5,000 บาท ดังนั้น รุ่น 1-4 จึงเป็นไม้ที่เกิดจากกิ่งแม่โดยตรง ส่วนรุ่น 5 น่าจะเกิดจากกิ่งแม่ที่ฝากไว้กับตอไทยที่อยู่ในสวน ซึ่งในช่วงหลังเศรษฐกิจเริ่มฟองสบู่แตกทำให้วงการชวนชมเงียบไปด้วย แต่ในช่วงแรกสวนเพชรบ้านนา ก็ประสบความสำเร็จ อยู่ในแนวหน้าของผู้เล่นชวนชมเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องจากสมัยนั้นเป็นการเพาะเลี้ยงไม้สีหรือที่เรียกว่าพันธุ์ฮอลแลนด์เป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีพวกยักษ์อยู่บ้าง คือ ยักษ์หน้าวัง ยักษ์ซาอุ ของสวนอโยธยา ยักษ์สิงห์บุรี ด้วยความมาแรงของชวนชมไม้สีสมัยก่อนไม่ต่างอะไรกับไม้ตัวอื่นๆที่ขยายพันธุ์โดยการเสียบยอด และเป็นการเข้าใจผิดว่าเป็นไม้ที่ส่งออกต่างประเทศได้ เพราะคนที่รู้เรื่องการส่งออกมีน้อยคน การสื่อสารก็ไม่เหมือนกับในปัจจุบัน จึงเป็นช่วงที่ผู้ที่นำเข้าชวนชมจากต่างประเทศได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ
เพชรบ้านนารุ่นแรก ๆ ฟอร์มก็แนี้แหละพอโตสวยจนจำไม่ได้
ทำให้ชวนชมในช่วงแรกต้องปิดฉากลง สวนชวนชมเพชรบ้านนาเองก็ต้องต้องเลิกไปในที่สุดเนื่องจากสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว..... ปัจจุบันต้นแม่พันธุ์เพชรบ้านนาที่นำมาจากประเทศซาอุได้กลับไปอยู่ จ.ชลบุรีเช่นเดิมโดยการขายให้กับอุทยานหินล้านปี ที่พัทยา แต่ก็ยังมีผู้ที่ได้สระสมไว้หลายคน ที่ยังหลงเหลือในเมืองไทย บางส่วนถูกขายออกไปนอกประเทศ กิ่งแม่ที่เสียบต่อไทยไว้ยังคงอยู่ที่คุณอนุชา ...ต่อมาประมาณปี 2545 ประเทศอินโดฯเริ่มมีความสนใจชวนชมของไทยที่มีความสวยงามแปลกกว่าไม้ตระกูลยักษ์ ให้ทรงสวยงามกว่าโซโคทรานั่มเรียกกันในเชิงการค้าว่า Thai Soco Petch Ban Na และยังมีไม้อีกหลายตัวที่ได้รับความนิยมเช่นกัน คือ มงกุฎทอง มงกุฎเพชร เข้าหินซ้อน รวมไปถึงไม้ตระกูลยักษ์ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และเป็นการกลับมาของเพชรบ้านนา ซึ่งเป็นส่งออกอย่างแท้จริงและเป็นที่ที่ยอมรับของชาวต่างประเทศไปแล้ว"
อีกรุ่นหนึ่งสังเกตุดูของผมตอนนี้ก็แนี้แหละแทไม่เห็นความสวยงาม
                   ข้อความเหล่านี้เป็นข้อความที่คุณเทิอดเกียรติ   เกียรติกูล  ได้โพสเอาไว้ ผมนำมาบางส่วนเพื่อให้สมาชิกที่ผ่านเข้ามาในเวปของผมได้เข้าใจประวัติความเป็นมา ได้รู้จักบุคคลที่คุณเทิดเกียรติ ได้กล่าวถึงว่าแต่ละคนเกี่ยวข้องกันยังไง ผมจะไม่พาเข้าลึกไปถึงผลประโยชน์ของแต่ละสวนที่ชิงผลประโยชน์กัน จนเกิดการอ้างอิงว่าของข้าคือกิ่งแท้แน่นอน เพราะผมต้องการให้คนเลี้ยงชวนชมโดยเฉพาะเพชรบ้านนา ได้เลี้ยงไม้อย่างมีความสุข มากกว่าจะมาสนใจว่าของใครจริงแท้แน่นอนครับ...
                    หลังจากที่ผมตัดสินใจว่าผมอยากมีโซโคมาประดับบารมีบ้าง ผมก็ลงทุนศึกษาประวัติความเป็นมาของแต่ละสายพันธุ์ ทำให้ผมรู้ว่าหลายสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงของสวนต่าง ๆ ล้วนมาจากชวนชมสายพันธุ์หนึ่งนั้นก็คืยักษ์บางคล้า  หลายคนได้ยินชือร้องยี่เลยครับ ทำไมนะหรือ ทั้งนี้ก็เพราะว่านักเล่นชวนชมปัจจุบันนี้ไม่ได้สนใจศึกษาหาประวัติชวนชมแต่ละสายพันธุ์นั่นเอง แต่จะสนใจเฉพาะชวนชมสายพันธุ์ที่กำลังมีชื่อเสียง หารู้ไม่ว่าไม่ว่าจะเป็มงกุฏทอง  หนองแหน ชฎาเพชร  เขาหินซ้อน และมงกุฏเพชร  ฯลฯ ล้วนมาจากชวนชมบางคล้าทั้งสิ้น แต่คนเรานี่แหละมาแยกแยะเรียกชื่อต่าง ๆ นานา ดังนี้
"ไม้สายบางคล้า จะมีคุณสมบัติดังนี้
1. ลูกที่ได้หลากหลายฟอร์ม เช่น มุงกุฎทอง(มกท.), เขาหินซ้อน(ขหซ.), มุงกุฎเพชร(มกพ.), ชฎาเพชร(ชฎพ.) ปะปนกันไป 
2. เมล็ดพันธุ์ ใน 1 ฝัก จะให้ลูกออกมา ดอก ต้น ใบ ฟอร์ม ที่แตกต่างกันไป แม้จะผสมเองด้วยมือ (ไม่นิ่ง)
3. การกลายในลักษณะด้อยที่มีน้อย เช่น ต้นแคระ แฝด ด่าง
           ทั้งหมด คือลักษณะของกิ่งบางคล้า เมื่อเพาะเม็ดสายนี้ เขาจะคัดต้นที่มีฟอร์มต่างออกจากกัน แล้วเรียกชื่อตามฟอร์มนั้น ๆ และท้ายที่สุด ต้นที่ไม่มีฟอร์มจะใช้ชื่อบางคล้า
....ชื่อแรก มกท. เกรดเอ คัดเอาไปขายสำหรับคนชอบสวมไม้
....ชื่อที่ 2 เขาหินซ้อน สำหรับคนชอบมวยรอง กิ่งขนานแต่กิ่งยืด แตกกิ่งเยอะ
....ชื่อที่ 3 มกพ. สำหรับฟอร์ม กิ่งชี้ 45 องศา
....ชื่อที่ 4 ชฎพ. ถ้าใบออกฟ้ากิ่งถี่
....ชื่อที่ 5 บางคล้า เป็นชื่อสุดท้ายที่ไร้ฟอร์ม"
             น่าสงสารบางคล้าไหมครับ มาจากฝักเดียวกันแท้ ๆ เรียกชื่อต่างกัน ผมยกมาก็ต้องการให้เพื่อนนักเล่นชวนชมอย่ายึดติดกับชื่อหรือยึดติดกัสวนว่า ถ้าอยากได้พันธุ์นี้ต้องมาจากสวนนี้เป็นต้น 
              เอาละครับผมชักจะพามาไกลมาดูเพชรบ้านนาที่ผมมีอยู่ดีกว่าครับก็พื้น ๆ ธรรมดาไม่มีอะไรหวืวหวาหรอกครับ และไม้ที่มีก็ยังเล็กอยู่และค่อยข้างขี้เหล่เอามาก ๆ ซะด้วย เลี้ยงบ้านนาต้องทำใจ   จะหอมหวานเมื่อไม้มีอายุห้าปีขึ้นไป ไม่ต้องใช้ลวดดัดกิ่งหรอก กิ่งชี้กระโดกกระเดกที่มีอยู่เขาจะเข้าฟอร์มเองโดยอัตโนมัต คือกิ่งจะนอนลงมาและสวยงามตามธรรมชาติ ไม่ต้องแต่งหรอกครับเปลืองเงินเปล่า ๆ


ใบและดอก
ดูใบใกล้ ๆ
ผิวแกร่ง ๆ 
ดอกหวาน ๆ มีพอได้ชื่นใจ
อีดหนึ่งดอก
ต้นนี้ซีด ๆ ไกล้โรย
ในกระถาง 11 นิ้ว
เหมือนกันเลย
ในกระถาง 55 เซ็นติเมตร (กระถางทำเองด้วยครับ) สายคุณเทิดเกียรติและคุณอนุชา แบบว่าปน ๆ กันครับ....
ดูไงก็ไม่สวยเลยครับ อายุประมาณสามปีเห็นจะได้
ค่อยดูดีหน่อย
ดูดีเหมือนกัน
โคนคู่จริง ๆ (เทียม ๆ ) กอดกันแน่นเชียว
อีกหนึ่งแถวครับที่มีอยู่
ผมไม่ได้แต่งรากเพราะผมชอบบ้านนาแบบเดิม ๆ ต้นนี้ดูแปล ๆ ต้องไปเช็คต้นนี้ใหม่....
งวงไอยรา ดูไงก็ใช่....ปลูกเป็นทรงดั้งเดิมได้
กิ่งกระชับ ๆ มักเป็นสายจากคุณอนุชาครับ
ต้นนี้น่าจะมาจากคุณเทอดเกียรติ
รากก็ยังงั้น ๆ 
รออีกสองปีเพื่อพิสูจน์ความสวยงามว่าเป็นตามเขาเล่าลือหรือเปล่า
สองราก กิ่งเมนชัดเจน
ชี้โด่ชี้เด่............
ได้แต่รอ ๆๆๆๆๆๆๆๆอีกสองปีว่ามันจะเข้าฟอร์มเอง...
ในกระถาง 20 นิ้ว รอเปลี่ยนดิน
ส่วนที่เปลี่ยนดินในกระถางเดิม ๆ
รอกระถาง.........เอากองไว้ ไม่ได้แขวนหรอก.......
รอ............
รอ..............
รอ............
อีกหนึ่งแถวที่ลองยกสูงดู...........
ไม่กล้าดัดรากเหมือนเซียนดัง ๆๆ
ทรงสูงเกินสิบสองนิ้วฟุต
ทรง Original
ขี้้้เหล่ก็ลองทำดู สวยไม่สวยไม่เป็นไร ความสุขได้จากการลองทำดู..........
นี่ก็ลองทำดู....
                 พี่น้องคอชวนชมครับ ชวนชมเพชรบ้านนาขของผมยังไม่ได้ข้อสรุปทั้งหมด ที่พอสรุปได้เบื้องต้นก็คือ ตอนเล็ก ๆ ขี้เหล่มาก ๆๆๆๆ หาฟอร์มสวย ๆ ยาก ดอกสียังไม่นิ่งเพราะอาจมีเข้มบ้าง ใบก็เขาเลย ดอกใส้โผล่ชัดเจน ผิวพรรณก็อย่างที่เห็น แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะเตือนสมาชิกก็คือ การซื้อเมล็ดเพชรบ้านนามาเพราะเองขอให้พึ่งระวังมาก ๆ กว่าการซื้อเมล็ดพันธุ์สายพันธุ์อื่น ๆ ทั้งนี้เพราะว่า      เพชรบ้านนานั้นมีลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่ควรมองข้าม แต่ถ้าท่านไม่ถือเรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร แต่คนที่อยากได้สายพันธุ์เพชรบ้านนาจริง ๆ ควรซื้อจากคนที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณอนุชา คุณเทิดเกียรติ หรือที่อื่น ๆ ที่คนในวงการเชื่อถือ ก็นับว่าท่านจะไม่เสียเวลาเปล่า ห้าปีกับการรอพิสูจน์ก็ทรมานพอแล้ว ถ้าไม่ได้ของจริงมันก็เสียเวลาไปไม่น้อย  แต่ก็มีอีกประเด็นที่คนต้องการพัฒนาสายพันธุ์โดยเอาเกษรเพชรบ้านนาไปผสมกับสายพันธุ์ที่ตัวเองชื่นชอบ ก็จะได้สายพันธุ์ใหม่ที่อาจสวยกว่าเพชรบ้านเดิม ๆ ก็ได้และอาจเลี้ยงง่ายกว่าเวลาการรอคอยก็อาจน้อยกว่า ผมมีตัวอย่างการผสมเกสรเพชรบ้านนากับสายพันธุ์อื่นก็คือ การเอาเพชรบ้านนาที่ถือว่าเป็นสุดยอดของโซโคทรานัมไปผสมกับราชินีพันธุ์ดอก ซึ่งเราถือว่าเป็นสุดยอดของชวนชมสายอาราบิคัม บุคคนที่ผมขออนุญาตกล่าวถึงคือคุณจรัญ   วงศ์ประเสริฐ ท่านเป็นปูชนีย์บุคคลด้านชวนชมที่คนในวงการต่างยกนิ้วให้ ท่านใช้เพชรบ้านนา(สวนหิน) ผสมกับราชินีพันธุ์ดอก ได้ลูกออกมาที่น่าพึงพอใจคือยังคงมีเอกลักษณ์ของเพชรบ้านนา และดอกที่ดก ๆ สีไปทางราชินีพันดอก 
เอาไว้โอกาสต่อไปผมจะมาโพสกระทู้บ้านนา+ราชินี...(บางคนก็ทำมาแล้วและตั้งชื่อว่าเพชรราชินี) ให้ท่านช่วยดูและวิเคราะห์ร่วมกันนะครับ ขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านท่านเข้ามาชม ชวงนี้ก็ทำสถิติวันละกว่า 800 คน ครับ ผมดีใจและภูมิใจที่มีคนสนใจและขอบอกกล่าวกับท่านทั้งหลายว่าผมมือใหม่ครับ ทุกวันนี้ก็เข้าเวปหาความรู้ทั้งบ้านเล็กของท่าน ฒ ผู้เฒ่า (คุณสุกิจ) และบ้านใหญ่ของคุณทรงกรด ขอบคุณท่านทั้งสองที่ให้ความอนุเคราะห์กับผมได้ศึกษาหาความรู้ ได้โพสแบ่งขายบางโอกาส และได้ฝากลิงค์เพื่อให้สมาชิกได้รู้จักบ้านสวนชวนชมมาก ๆ ครับ  ขอบพระคุณผู้อ่านทุก ๆ ท่านครับ.........

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

ชฎาเพชรในกระถาง 55 เซ็นติเมตร.....

                ชวนชมชฎาเพชรชุดนี้ เป็นเมล็ดที่ซื้อมาจากคนในเวปไซต์ทั้งบ้านใหญ่และบ้านเล็ก คือ ชฎาเพชร F3 (ดอกหวาน) จากคุณนพ BBK491 คือคุณมานพ   ธีรสบายจิต  และชฎาเพชร F1 คุณพงษ์พันธ์   รัตนวิเชียร ตอนนั้นราคาเมล็ดของคุณนพ เม็ดละ 5 บาท ของคุณพงษ์พันธ์ เม็ดละ 3.50 บาท ที่ซื้อเมล็ดทั้งสองชุดนี้เพราะว่าผมาอยากมีโซโคประดับบารมีบ้าง เนื่องจากว่าตอนนั้นผมทำราชินีพันดอกอย่างเดียว ประเภททำไป ศึกษาไป นั้นเอง...........

                ชฎาดอกหวานของคุณนพ เสียไปเยอะเนื่องจากว่าผมใส่ขี้วัวมากเกินไป เมล็ดนะหรืองอกดี แต่เนื่องจากผมมีขี้วัวเยอะก็เลยใส่ไปซักครึ่งหนึ่งของดิน ปัญหาที่ตามมาก็คือใบหงิกงอ กิ่งเล็กไม่สมบูรณ์ บางส่วนก็เน่าตายไป มีเหลือรอดมาส่วนหนึ่งแต่ก็ไม่สวย มันเป็นอุทาหรณ์ครั้งสำคัญของผมที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องการใช้ปุ๋ย ทั้ง ๆ ที่อัตราการงอกของเมล็ดอยู่ในอัตราประมาณ 70 % ซึ่งนับว่าอยู่ในอัตราการงอกที่ดีสำหรับมือใหม่อย่างผม ทุกวันนี้ต้นที่ไม่สมบูรณ์ผมก็ยังเลี้ยงอยู่เพื่อเป็นการศึกษาดูว่าถ้าเราเปลี่ยนกระถางใหม่ ดินผสมใหม่ ผลจะออกมาอย่างไร สรุปผลที่ได้ก็คือยังมีอาการเติบโตที่ไม่สมบูรณ์ ดอกออกมาก็ไม่สมบูรณ์ เดี๋ยวจะได้เห็นจากของจริง ส่วนเมล็ดของคุณพงษ์พันธ์ ก็มีอัตราการงอกที่ใกล้เคียงกัน แต่ไม่เจอขี้วัวเหมือนที่ผมเล่ามา ต้นก็เลยปกติ มีความสมบูรณ์ดี ให้ดอกที่สวยงามไม่แพ้ของคุณนพ .............

            ไม้ชุดนี้เป็นไม้ฝึกปลูกและเลี้ยงก็ว่าได้ การเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ๆ การให้ปุ๋ย การให้น้ำ และเทคนิค ต่าง ๆ ผมศึกษาจากเวปคนรักโซโค กับบ้านบางแคเป็นส่วนใหญ่ มีทุกเรื่องราวที่เราต้องการ นอกจากนั้นยังมีคนในเวปที่มีความเอื้ออารีย์ต่อกันเป็นจำนวนมาก ผมจะยกตัวอย่างนะครับ ผมอยากโพสกระทู้เหมือนรุ่นพี่ ๆ ที่เขาทำเพื่อโชวไม้บ้าง ขายชวนชมบ้าง  แต่ผมย่อรูปไม่เป็นผมก็ลองถามคนในเวปว่าทำอย่างไรจะย่อรูปได้ เท่านั้แหละครับมีพี่ ๆ มาแนะนำเป็นสิบ ๆ กระทู้ พร้อมมีลิงค์โปรแกรมย่อรูปให้เสร็จสับ เห็นไหมครับน้ำใจคนในเวป ถึงแม้วันนี้มันจะเปลี่ยนไปบ้างแต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่ยังมีน้ำใจต่อนักเล่นมือใหม่ที่มีคำถามไป ว่ามาซะยืดยาว ดูรูปก่อนนะครับ...................
ดอกและใบส่วนหนึ่ง
ดอกหวาน ๆ .........
ใบมัน ๆ ดอกเข้มคม.........
ต้นนี้เป็นชฎาเพชร รับจากสวนพี่ต้อย  แปดริ้ว ตอนที่นำมาขายที่งานขอบคุณตลาดโคกกรวดของป๋าธรณ์ เมื่อสองปีที่แล้ว ต้นนี้คุณจรัญ   วงศ์ประเสริฐ เลือกให้กับมือ แต่ผมเลี้ยงหลุดฟอร์มเอง
ดอกและใบสวยงาม ดอกดกแต่วันที่ถ่ายเหลือแค่นี้.......
ตัดช่วงบนทั้งหมดให้ดู.........
..
อีกหนึ่งต้นครับ...
กำลังออกดอกหลังจากร่วงแล้วร่วงอีกเพราะฝนหลงฤดู ต้นนี้แหละที่เจอขี้วัวขนาดหนัก
อีกหนึ่งต้นที่เริ่มให้ดอก
ต้นนี้ดอกพลูแต่ขาดการจัดระเบียบกิ่ง...
รากจัดไว้บ้างแต่ก็จัดทุกต้นใช้ทฤษฎีไม้ 5 กิ่ง 5 ราก ของอาจารย์ปู๊ด...
เหมือนกันเลยแต่คนละต้นนะ
กำลังโตและกำลังสวยครั สมอยากที่มีโซโคประดับารมี...
ขนาดจัดรากแมี 3-7 ราก
อีกต้นครับ.............
อีกต้น...........
รากคงสองชั้นแล้ว..........
ใครชอบรากเยอะ ๆๆ ดูไว้นะครับ โตขึ้นไม่มีช่องไฟแน่นอน....
รากอีกแบบ....
กิ่งนอน ๆ....
ใช้รากส่วนบนเป็นต้น รากข้างล่างค่อยจัดให้เป็นราก...
อีกหนึ่งต้น...
อีกหนึ่งต้นไม่ได้แต่งกิ่งเลย....
สงสัยต้องไปหาเซียนโต้ง  หัวทะเลช่วยจัดการให้
ต่อไปคงหาต้นสวย ๆ ใส่กระถางจีน แต่งกิ่งให้สวย...
รากจัดไว้ทุกต้นแล้ว ช่วงบนยังทุกต้น
ต้นนี้รากสี่เส้น
นี่ก็อีก ต้นสวยไม่สวยผมเลี้ยงหมด
เข้าลวดแต่งกิ่งสวย ๆ คงพอดูได้
โฟมเผาเมื่อไหร่ก็เกิดภาวะโลกร้อน ผมเอามาใช้กับการรองกระถางชวนชมและรองต้นเวลาปลูกผมเจอโฟมที่เขาทิ้งที่ไหนผมจะเก็บทันทีก่อนที่เทศบาลจะ....ลดโลกร้อนได้
หลายฟอร์มครับ..........
ระบบรากคล้าย ๆ กัน
พุ่มเหมือนไทรโศก...มีหลายต้นแบบนี้
รากและกิ่งเดินสวย...ธรรมชาติ
ทุก ๆ ต้นเลย...ดอกเริ่มมาแล้ว
พุ่มสวย ๆ 
หลาย ๆ แบบ ดูเอาเองครับ...หลาย ๆ ต้นคงใช้รากเป็นลำต้นไม่อย่างนั้นคอจะสั้น...
นี่ก็สวยงามครับ...รากห้าเส้น...
ช่อดอกซ้ายมือ....ปีหน้าจะดกกว่านี้ถ้าฝนไม่ตกบ่อย ๆ 
รากและพุ่มสวย ๆ รากตรงกลางอาจต้องทำใจตัดออก...
พร้อมดอกสวย ๆ ......
ยี่สิบกว่าเซ็น....รากสี่เส้น...
รากชัน ๆ ไว้ เปลืองกระถาง...อย่าแผ่เชียว...เปลืองเงิน...
พุ่มสวย ๆ รากสามเส้นโตขึ้นรากจะสวยมีช่องไฟให้เห็น.....

              สรุปการเลี้ยงไม้ชุดนี้ได้รับประสบการณ์หลายอย่งที่เป็นกำไรชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการให้ปุ๋ยคอกที่เกินขนาดจนทำให้ไม้เน่าเสียหายเป็นจำนวนมาก การใช้ทรายหยาบผสมกับดินผสมใบก้ามปูที่ใช้ในการเลี้ยงไม้ในกระถาง 8 นิ้ว ส่งผลให้ไม้เติบโตช้า ถ้าไม่มั่นใจว่าจะให้ปุ๋ยได้อย่างเพียงพอและรดน้ำได้สม่ำเสมอแล้ว การใช้ทรายผสมในสูตรดินต้องพิจารณาให้ดี ไม้ของผมให้ตาและยายดูแลช่วยรดน้ำ ผมจะเข้าสวนได้ก็ประมาณครึ่งเดือน หรือสองอาทิตย์ไม้ผมจึงขาด ๆ เขิน ๆ ไม่โตเหมือไม้ของคนอื่น บางทีไม้ก็มีกิ่งยืดกิ่งเดียวบ้าง 2-4 กิ่งบ้าง ถ้าผมเฝ้าอยู่เราจะคุมฟอร์มไม้ได้อย่างใจ เช่นถ้ามีกิ่งหนึ่งยืดเราอาจใช้วิธีการหยิกยอดเข้าช่วย   เราก็จะคุมฟอร์มไม้ได้ หรือถ้าเราจะให้รากข้างหนึ่งหรือกิ่งอีกอีกข้างหนึ่งที่เล็กกว่าหรือสั้งกว่าเราก็อาจหยอดปุ๋ยละลายช้าบริเวนรากหรือยอดข้างที่เราต้องการให้ไม้เติบโตเท่า ๆ กับอีกด้านหนึ่งได้  
                อีกเรื่องหนึ่งเรื่องราก จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องนานาจิตตัง ที่แต่ละคนอยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ก็อยากจะบอกว่าการไว้รากเยอะ ๆ เหมือนที่ทำกันทุกวันนี้ ลองคิดดูในภายภาคหน้าเมื่อไม้โตขึ้น รากจะไม่มีช่องไฟให้เห็น ก็จะทำให้มันดูทื่อ ๆ  แต่ถ้าจะตัดรากตอนไม้โตแล้วลองคิดดูว่าแผลที่เกิดขึ้นจากการตัดรากออก เมื่อไหร่แผลจะหายซะทีใช่ไหมครับ ผมจึงยึดทฤษฎีไม้และรากห้ากิ่งและห้าเส้นของอาจารย์ปู๊ดที่ท่านได้แสดงความคิดเห็นไว้........
                 ส่วนเรื่องกิ่งด้านบนคงต้งใช้ลวดดัดแน่นอน ผมไม่เคยทำและลองศึกษาดูแล้ว แต่ยอมรับว่ายังขาดความมั่นใจอยู่มาก นึกถึงเรื่องเข้าลวดเมื่อไหร่ก็นึกเห็นหน้าอาจารย์โต้ง   หัวทะเลทุกครั้งไป ผมประทับใจในความเก่งในการเข้าลวดของท่านมาก ๆ เลยครับ ....
                  คราวหน้าจะมาอัพเดทไม้พวกเพชรบ้านนา หนองแหน บ้านนา+ราชินี ใจเย็น ๆ รอก่อนนะครับ วันนี้ขอบคุณมาก ๆ ที่เข้ามาหากัน ขอบพระคุณทุก ๆ ครั้งที่ท่านมาเยี่ยมชมนะครับ ผิดตกอะไรก็อย่าว่ากันนะครับผมก็มือใหม่คนหนึ่งเหมือนกันครับ สวัสดีครับ.......................
*****************